ประชาสัมพันธ์ คลินิกนิรนาม (HIV) โรงพยาบาลห้วยแถลง ตรวจฟรี ปีละ 2 ครั้ง

ประชาสัมพันธ์ คลินิกนิรนาม HIV ตรวจฟรี ปีละ 2 ครั้ง จองคิวได้ สบายใจ ไม่เปิดเผย รู้ผลไว ไม่รอนาน พร้อมให้คําปรึกษาก่อนและ หลังตรวจ สนใจ ติดต่อได้ที่ คลินิกมีสุข 14 ทุกวันเวลาราชการ เวลา 08.30 - 11.30 น. โรงพยาบาลห้วยแถลง

เล่นอย่างปลอดภัย ไม่พิการ ไม่บาดเจ็บ พลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ บอลไล่นก

1. ไม่ดัดแปลง ไม่ถอดชนวนไม่ผูกมัดรวมกันหลายอันแล้วจุด ไม่จุลใส่ภาชนะ (ขวด, ท่อพลาสติก, กล่องปิด) 2. ไม่เล่นใกล้บริเวณ แนวสายไฟฟ้า อาคารบ้านเรือน ปั้มน้ํามัน ปั้นแก๊ส วัสดุติดไฟจ่าย กองฟาง กองยาง3. ไม่ถือ ประทัด, บอลไล่นก (มีชนวนสั้นจุดแล้วเขวี้ยงไม่ทัน = ระเบิดใส่มือ)4. ไม่โยน ไม่โยนใส่ สัตว์เลี้ยง คนขับขี่ยานพาหนะ+++ พบผู้บาดเจ็บ โทร 1669 ด่วนตลอด 24 ชม. +++**คําแนะนํา- ใช้ปืนจุดแก๊สในการจุดเพื่อเว้นระยะห่าง- อ่านฉลากและตรวจสอบประทัดว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนจุด- เล่นในที่โล่ง ห่างจากวัตถุไวไฟ- เด็กไม่ควรเล่นตามลําพัง- ไม่เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ, กระเป๋ากางเกง หรือที่อากาศร้อนเพราะอาจทําให้เสียดสีเกิดระเบิดได้

ประชาสัมพันธ์งานแพทย์แผนไทย เปิดให้บริการนอกเวลา

ประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป งานแพทย์แผนไทย เปิดให้บริการนอกเวลา ช่วงเวลา 16.00 - 20.00 น. ทุกวันพุธ (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) สามารถจองคิวออนไลน์ได้ที่ ระบบจองคิวออนไลน์ รพ.ห้วยแถลง หรือสแกน QR

โรงพยาบาลห้วยแถลงผ่านการประเมินรับรองคุณภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโรงพยาบา...

วันที่ 11 กันยายน 2568 โรงพยาบาลห้วยแถลง นำโดยแพทย์หญิงวิภา อุทยานินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลห้วยแถลง เข้ารับใบประกาศนียบัตร ผ่านการตรวจประเมินรับรองคุณภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศโรงพยาบาล ระดับที่ 1+ จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) และสมาคมเวชสารสนเทศไทย (TMI)

ประชาสัมพันธ์ รพ.ห้วยแถลง รับสมัครประกวดออกแบบป้าย รพ. แห่งใหม่

ประชาสัมพันธ์ รพ.ห้วยแถลง รับสมัครประกวดออกแบบป้าย รพ. แห่งใหม่ ชิงเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท

ประกาศโรงพยาบาลห้วยแถลง เรื่อง คำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ...

ประกาศโรงพยาบาลห้วยแถลง เรื่อง คำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับผู้รับบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลห้วยแถลง

ประชาสัมพันธ์ วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 วันรณรงค์ตรวจเอชไอวี

ประชาสัมพันธ์ วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 วันรณรงค์ตรวจเอชไอวี- ตรวจเร็ว รู้ทัน- ป้องกันได้- ตรวจฟรี ปีละ 2 ครั้ง

ประชาสัมพันธ์ ช่องทางการเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่น

ช่องทางการเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่น-คลินิกวัยรุ่น ณ หน่วยบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ-เพจ Facebook : YoungLove รักเป็นปลอดภัย-เว็บไซต์ RSATHAI.ORG เครือข่ายอาสาเพื่อการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย-สายด่วนปรึกษาปัญหาท้องไม่พร้อม 1663-สายด่วนสุขภาพจิต 1323-สายด่วนการศึกษา 1579-เลิฟแคร์ “กล้ารัก กล้าเช็ค” www.lovecarestation.com-มูลนิธิแพธทูเฮลท์ www.teenpath.net-Line Official Account: Teen club

คำแนะนำและมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด 19 สำหรับสถ...

หลักการสำคัญ: โรคไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่แพร่กระจายได้ง่ายในสถานศึกษา ซึ่งมีการรวมตัวของคนหมู่มาก การปฏิบัติตามมาตรการ DMH (Distancing, Mask Wearing, Hand Washing) เป็นสิ่งสำคัญ1. มาตรการด้านการเฝ้าระวังและคัดกรองโรค: เฝ้าระวังใกล้ชิด: ครู/อาจารย์ควรเฝ้าระวังนักเรียนที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ (คล้ายไข้หวัดใหญ่) และคัดกรองตามแบบที่กำหนด โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดควรคัดกรองทุกวัน แยกผู้ป่วยและแจ้งผู้ปกครอง: หากพบนักเรียนที่สงสัยป่วย ให้แยกออกจากกลุ่มและแจ้งผู้ปกครองทันที เพื่อพาไปพบแพทย์และพิจารณาให้หยุดเรียนตามคำแนะนำของแพทย์ (อย่างน้อย 5 วัน หรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น) รายงานกรณีพบผู้ป่วยหลายราย: หากพบนักเรียนสงสัยป่วยมากกว่า 2 รายใน 1 สัปดาห์ในห้องเรียนเดียวกัน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่เพื่อสอบสวนและควบคุมโรค คัดกรองต่อเนื่อง: สถานศึกษาต้องดำเนินการคัดกรองทุกวันในช่วงที่มีการระบาดในสถานศึกษาหรือพื้นที่ใกล้เคียง พิจารณาปิดห้องเรียน/โรงเรียน: หากพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก ควรพิจารณาปิดห้องเรียนหรือโรงเรียนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อชะลอการแพร่กระจายเชื้อ ทำความสะอาด: ทำความสะอาดอุปกรณ์และบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได อย่างสม่ำเสมอ 2. มาตรการด้านการป้องกันและควบคุมโรค: ให้ความรู้: สร้างเสริมความรู้เรื่องโรค การป้องกัน และการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 ในวิชาสุขศึกษา รณรงค์/ประชาสัมพันธ์: รณรงค์และสื่อสารความรู้เรื่องโรค การป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 ให้นักเรียนอย่างทั่วถึง 3. มาตรการด้านการเตรียมความพร้อมรองรับการระบาด: พัฒนาบุคลากร: จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและอบรมให้ความรู้ ฝึกทักษะแก่ครูและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค รวมถึงให้ความรู้กลุ่มเสี่ยง การได้รับวัคซีน อาการสำคัญที่ต้องพบแพทย์ และการกินยาตามสั่ง จัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์: จัดเตรียมห้องพยาบาล สถานที่แยกโรค และอำนวยความสะดวกในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ เช่น เจลแอลกอฮอล์ อ่างล้างมือพร้อมสบู่ หน้ากากอนามัยให้เพียงพอ ประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุข: ครู/อาจารย์ควรประสานงานกับ รพ.สต. สสอ. สสจ. ในการรณรงค์/ประชาสัมพันธ์ในสถานศึกษา กิจกรรมรวมกลุ่ม: หากมีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของนักเรียนจำนวนมาก เช่น ปฐมนิเทศ กีฬาสี เข้าค่าย ครู/อาจารย์ และนักเรียนควรปฏิบัติตามมาตรการ DMH อย่างเคร่งครัด 4. มาตรการด้านการดูแลรักษา: หากพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ครูและอาจารย์ควรแนะนำให้ผู้ปกครองพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ 5. มาตรการด้านการจัดการเมื่อเกิดการระบาดของโรค: คัดกรองเพิ่มเติม: ดำเนินการคัดกรองนักเรียนเพิ่มเติมที่เข้าข่ายนิยามโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 ของกองระบาดวิทยา กรณีโรงเรียนประจำ/ค่ายค้างคืน: หากพบผู้ป่วยสงสัย ควรแยกผู้ป่วยออกจากกลุ่มนักเรียน และให้บุคลากร/นักเรียนปฏิบัติตามมาตรการ DMH อย่างเคร่งครัด

คำแนะนำสำหรับกิจกรรมการรวมตัวของคนหมู่มาก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรคไข...

1. ภาพรวมของโรค: โรคไข้หวัดใหญ่: เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) มี 3 สายพันธุ์ (A, B, C) ติดต่อผ่านละอองฝอยจากการไอจาม และการสัมผัสสิ่งของปนเปื้อน อาการคือไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย อาจมีอาการรุนแรงในเด็กเล็กและผู้ใหญ่บางราย โรคโควิด 19: เกิดจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ติดต่อคล้ายไข้หวัดใหญ่ อาการมีไข้ ไอ หายใจลำบาก ปอดบวม ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และหญิงตั้งครรภ์ (กลุ่ม 608) มีความเสี่ยงอาการรุนแรงสูง 2. มาตรการป้องกันโดยรวม: DMH: D (Distancing): รักษาระยะห่าง M (Mask Wearing): สวมหน้ากากอนามัย H (Hand Washing): ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ 3. คำแนะนำสำหรับผู้จัดงาน/เจ้าภาพ: ให้ข้อมูลล่วงหน้า: แจ้งคำแนะนำการป้องกันแก่ผู้ร่วมงานผ่านช่องทางต่างๆ (จดหมาย, หนังสือพิมพ์, นิทรรศการ, ประกาศในงาน) อำนวยความสะดวก: ป้ายคำแนะนำ/หน่วยบริการสำหรับผู้ป่วย จัดอ่างล้างมือพร้อมสบู่/กระดาษทิชชูให้เพียงพอ ทำความสะอาดอุปกรณ์และบริเวณที่สัมผัสบ่อยๆ (ราวบันได, ลูกบิดประตู) ด้วยน้ำยาทำความสะอาด จัดหาหน้ากากอนามัยสำหรับผู้มีอาการที่จำเป็นต้องร่วมกิจกรรม จัดจุดปฐมพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ แยกออกจากกิจกรรม และอำนวยความสะดวกในการส่งกลับบ้าน/โรงพยาบาล ลดความแออัด (เช่น เพิ่มจำนวนรถ, กระจายจุดจำหน่ายอาหาร) จัดบริการทางเลือกทดแทน (เว็บไซต์, ถ่ายทอดสด) 4. คำแนะนำสำหรับผู้มาร่วมกิจกรรม: ผู้ป่วย/มีอาการ: ควรหยุดพักรักษาตัวที่บ้านอย่างน้อย 5 วัน หรือตามคำแนะนำแพทย์ หากจำเป็นต้องเข้าร่วม ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและล้างมือบ่อยๆ (โควิด 19 ควรตรวจ ATK) กลุ่มเสี่ยง (ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง, หญิงมีครรภ์, ผู้สูงอายุ >65 ปี, เด็ก <2 ปี, ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ, ผู้มีโรคอ้วน): ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนหมู่มาก โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาด (โควิด 19 ควรตรวจ ATK) ประชาชนทั่วไป: ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่/เจลแอลกอฮอล์ ไอ/จาม ให้ใช้กระดาษทิชชูหรือผ้าปิดปาก/จมูก หากไม่มี ให้ไอจามใส่แขนเสื้อแทน การสวมหน้ากากอนามัย: มีประโยชน์มากหากมีอาการป่วย (ช่วยป้องกันการแพร่เชื้อ) ผู้ที่ไม่มีอาการอาจพิจารณาสวมในที่แออัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ สรุปโดยรวม: การจัดกิจกรรมที่มีคนหมู่มากในช่วงการระบาดของไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 มีความเสี่ยงสูง ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเน้นการรักษาความสะอาด สุขอนามัยส่วนบุคคล การรักษาระยะห่าง และการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็น เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค

ประชาสัมพันธ์ การให้บริการฝังยาคุมและถอดยาคุม

การให้บริการฝังยาคุมและถอดยาคุมโดยนำบัตรประชาชน มายื่นได้ที่ กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัวและบริการด้านปฐมภูมิ (ตึกอำนวยการ ชั้น 1)- ให้บริการวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 08.00 - 15.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)ติดต่อสอบถามโทร 044-082300 ต่อ 414